อย่าชะล่าใจ แอนแทรกซ์ โรคจากอดีตหวนคืน อย่ามองข้ามเด็ดขาด

อย่าชะล่าใจ โรคแอนแทรกซ์ พบผู้เสียชีวิตรายแรกในรอบเกือบ 20 ปี อย่ามองข้ามเด็ดขาด เตือนประชาชนให้ หลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์ป่วยเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ

พบผู้เสียชีวิตจาก “แอนแทรกซ์” รายแรกในรอบเกือบ 20 ปี โรคติดเชื้อร้ายแรงอย่าง โรคแอนแทรกซ์ กลับมาปรากฏอีกครั้งในประเทศไทย โดยมีรายงานผู้เสียชีวิตรายแรกในรอบเกือบสองทศวรรษ สร้างความกังวลในวงการสาธารณสุข เบื้องต้นมีการเตือนประชาชนให้ หลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์ป่วย ซากสัตว์ และการบริโภคเนื้อดิบหรือไม่ปรุงสุก เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ

 

อย่าชะล่าใจ แอนแทรกซ์ โรคจากอดีตหวนคืน อย่ามองข้ามเด็ดขาด

อย่าชะล่าใจ แอนแทรกซ์ โรคจากอดีตหวนคืน อย่ามองข้ามเด็ดขาด

จากกรณี “หมอแล็บแพนด้า” โพสต์เตือนภัย! มีคนเสียชีวิตด้วยโรคแอนแทรกซ์ ในพื้นที่ อ.ดอนตาล จ.มุกดาหาร 1 ราย มีประวัติสัมผัสวัว ควาย ตามวิถีชาวบ้าน และล่าสุดกินเนื้อวัวดิบในงานบุญฯ เห็นว่ากินกันหลายคน แต่โชคดีที่รู้แล้วว่าเป็นแอนแทรกซ์รายต่อๆ ไปน่าจะรักษาได้ตรงจุดได้ไว

 

อย่าชะล่าใจ แอนแทรกซ์ โรคจากอดีตหวนคืน อย่ามองข้ามเด็ดขาด

อย่าชะล่าใจ แอนแทรกซ์ โรคจากอดีตหวนคืน อย่ามองข้ามเด็ดขาด

โรคแอนแทรกซ์ล่าสุด วันนี้ (1 พ.ค.) มีรายงานว่า นายแพทย์ภาณุมาศ ญาณเวทย์สกุล อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงถึงสถานการณ์การระบาดของโรคแอนแทรกซ์ในประเทศไทย ภายหลัง พบผู้เสียชีวิต 1 ราย ที่จังหวัดมุกดาหาร โดยผู้เสียชีวิตเป็นชายอายุ 53 ปี มีโรคประจำตัวคือเบาหวาน และประกอบอาชีพรับจ้างก่อสร้าง เริ่มมีอาการตุ่มแผลขึ้นที่มือขวาตั้งแต่วันที่ 24 เมษายน 2568 และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในวันที่ 27 เมษายน 2568 ด้วยอาการแผลที่มือมีสีดำชัดเจน ต่อมน้ำเหลืองใต้รักแร้ขวาโต และมีอาการหน้ามืด ชักเกร็ง ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา

 

แพทย์ผู้ทำการรักษาได้สงสัยว่า ผู้ป่วยอาจติดเชื้อแอนแทรกซ์ จึงได้เก็บตัวอย่างส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และสถาบันบำราศนราดูร ซึ่งผลตรวจยืนยันพบเชื้อ Bacillus anthracis จากการสอบสวนโรคเบื้องต้น ทีมปฏิบัติการสอบสวนควบคุมโรค กรมควบคุมโรค ร่วมกับสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 จ.อุบลราชธานี สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และทีมปศุสัตว์ ได้ลงพื้นที่สอบสวนโรคและพบผู้สัมผัสใกล้ชิดจำนวน 247 คน แบ่งเป็นผู้ที่ชำแหละโค 28 คน และผู้ที่บริโภคเนื้อโคดิบ 219 คน โดยได้ดำเนินการให้ยาป้องกันโรคในกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูง และอยู่ระหว่างดำเนินมาตรการป้องกันควบคุมโรคในพื้นที่

โรคแอนแทรกซ์ โรคจากอดีตหวนคืน อย่ามองข้ามเด็ดขาด

โรคแอนแทรกซ์ โรคจากอดีตหวนคืน อย่ามองข้ามเด็ดขาด

 

นายแพทย์ภาณุมาศ อธิบายว่า โรคแอนแทรกซ์เป็นโรคติดต่อร้ายแรงจากสัตว์สู่คน เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Bacillus anthracis ซึ่งสปอร์ของเชื้อมีความทนทานในสภาพแวดล้อม และสามารถก่อโรคได้นานหลายปี แหล่งรังโรคหลักคือสัตว์เคี้ยวเอื้อง เช่น โค กระบือ แพะ และแกะ ซึ่งสามารถแพร่เชื้อสู่คนได้โดยตรง การติดเชื้อในคนส่วนใหญ่มาจากการสัมผัสสัตว์ป่วยโดยตรง เช่น ชำแหละเนื้อ บริโภคเนื้อดิบหรือปรุงไม่สุก หรือสัมผัสหนังสัตว์หรือขนสัตว์ที่มีเชื้อ หลังรับเชื้อ 1-5 วัน จะมีอาการไข้ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้องรุนแรง มีแผลคล้ายบุหรี่จี้ หายใจขัด หากรุนแรงมีโอกาสเสียชีวิตสูงถึง 80% ข้อมูลจากกองระบาดวิทยาพบผู้ป่วยในไทยครั้งล่าสุดในปี 2543 รวม 15 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต

 

อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์ในประเทศเพื่อนบ้านว่า ในปี 2567 ประเทศลาวพบผู้ติดเชื้อแอนแทรกซ์ 129 ราย เสียชีวิต 1 ราย และเมื่อพฤษภาคม 2566 เวียดนามพบการระบาด 3 เหตุการณ์ ผู้ป่วยรวม 13 ราย และผู้สัมผัส 132 ราย จากการกินเนื้อโคและกระบือเช่นกัน

 

สำหรับแนวทาง การป้องกันโรคแอนแทรกซ์ นายแพทย์ภาณุมาศ แนะนำให้ประชาชน 1. หลีกเลี่ยงการสัมผัสโค กระบือ แพะ แกะ 2. ล้างมือหลังสัมผัสสัตว์ 3. เลือกบริโภคเนื้อสัตว์ที่ได้รับการรับรองความปลอดภัย 4. หากพบสัตว์ป่วยตายผิดปกติให้แจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ทันที 5. หากมีอาการผิดปกติให้รีบพบแพทย์ หากมีข้อสงสัยโทรสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422